ข่าวสารสถาบันวิจัย
แถลงข่าวพิธีลงนามการถ่ายทอดทรัพย์สินทางปัญญา

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผนึก อินโนบิก (เอเซีย) ถ่ายทอดงานวิจัย

โจ๊กที่มีส่วนผสมสารสกัดใบหม่อนและผักแพว วัตถุดิบท้องถิ่นคุณประโยชน์สูง

เพื่อผลิตและจำหน่าย สู่ตลาดไทยและสากล

 

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566  เวลา 09.00 น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวพิธีลงนามการถ่ายทอดทรัพย์สินทางปัญญาผลิตภัณฑ์ โจ๊กที่มีส่วนผสมสารสกัดใบหม่อนและผักแพว” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด พร้อมผู้บริหารทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามในพิธี ณ ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  กล่าวว่า ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความมุ่งมั่นผลักดันผลงานวิจัยที่ดีและมีคุณภาพไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อยกระดับสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีผลการวิจัยรองรับ โดยใช้วัตถุดิบในประเทศ และช่วยลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งที่น่าภาคภูมิใจคือ ผลงานนี้ใช้ใบหม่อนและผักแพวเป็นวัตถุดิบ ซึ่งเป็นพืชที่มีแหล่งเพาะปลูกมากในท้องถิ่นของภาคอีสาน ถือเป็นความตั้งใจอย่างยิ่งของทีมนักวิจัยที่อยากจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบหม่อนและผักแพว


สำหรับผลงานทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง “โจ๊กที่มีส่วนผสมสารสกัดใบหม่อนและผักแพว” นั้น                   ทีมนักวิจัย นำโดย ศ.ดร.จินตนาภรณ์ วัฒนธร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะมนุษย์และการเสริมสร้างสุขภาพ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งใจพัฒนาสูตรขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุซึ่งมักจะมีปัญหาเรื่องความจำและมีปัญหาเรื่องระบบกระดูก นอกจากนั้น ยังช่วยให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรในรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพซึ่งมีมูลค่าสูงได้ เช่นเดียวกับผู้บริหาร บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านชีววิทยาศาสตร์ในภูมิภาคที่มีวิทยาศาสตร์อันเป็นเลิศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ก็มีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ทางด้าน Life Science และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น คือ มหาวิทยาลัยวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลก (A World-Leading Research and Development University) โดยหนึ่งในเป้าหมายคือ การวิจัย พัฒนาและการนำไปใช้ประโยชน์ จึงทำให้เกิดความร่วมมือและนำไปสู่การ Matching ผลงานวิจัยและธุรกิจในครั้งนี้

ศ.ดร.จินตนาภรณ์ วัฒนธร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสมรรถนะมนุษย์และการเสริมสร้างสุขภาพ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น มีการพัฒนาให้รับประทานง่าย ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ส่วนใหญ่มีราคาสูงเพราะนำเข้าจากต่างประเทศ ในฐานะนักวิจัยจึงได้มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพจากพืชที่มีมากในประเทศไทย พบว่าใบหม่อนและผักแพวซึ่งเป็นผักพื้นบ้านอีสานมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะ สารฟีนอลิก และ ฟลาโวนอยด์ รวมทั้งมีปริมาณแคลเซียมสูง ปัจจุบันเรากำลังเผชิญภาวะสังคมผู้สูงอายุซึ่งจะพบปัญหาเรื่องความจำบกพร่องและความแข็งแรงของกระดูกจะลดลงเนื่องจากมีการทำลายที่มากขึ้น จึงตั้งโจทย์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือ แก้ปัญหาได้ถูกจุด แต่จะต้องรับประทานง่าย จนกระทั่งเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “โจ๊กที่มีส่วนผสมสารสกัดใบหม่อนและผักแพว” ที่มีผลงานวิจัยรองรับและได้ยื่นขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว


ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจด้านยา ด้านวัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์แล้ว ในการดำเนินธุรกิจด้านโภชนเภสัชและโภชนาการ อินโนบิก (เอเซีย) มีวัตถุประสงค์ให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่ดี มีคุณภาพ มีโภชนาการดี สามารถป้องกันโรคต่างๆที่มาพร้อมกับการดำเนินชีวิตตามวถีสมัยใหม่ได้ โดยมีกลยุทธ์การดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร ผู้เชี่ยวชาญ และสนับสนุนงานวิจัยที่มีศักยภาพให้สามารถก้าวไปสู่ระดับเชิงพาณิชย์ ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศได้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านโภชนาการแก่คนไทย


 “โจ๊กที่มีส่วนผสมสารสกัดใบหม่อนและผักแพว” เป็นหนึ่งในงานวิจัยคุณภาพโดยนักวิจัยไทย  ที่นำพืชผักพื้นบ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย มาเป็นวัตถุดิบหลัก คือใบหม่อนและผักแพวที่มีคุณประโยชน์ เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบต่างๆในร่างกาย ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่มักแสดงความผิดปรกติในกลุ่มผู้สูงอายุ  สอดคล้องกับแนวโน้มของสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยวางแผนการจำหน่ายช่วงแรกในรูปแบบซอง  ตั้งเป้าออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนไทย  โดยเฉพาะผู้สูงวัย ได้รับประทานอาหารที่สะดวกและมีประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบในท้องถิ่น ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยมีแผนที่ต่อยอดสารสกัดใบหม่อนและผักแพวเป็นสินค้าประเภทอื่นๆอีกในอนาคต




 
เว็บสำเร็จรูป
×